5/5 – (3 votes)

เราคือผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้งมุ้งลวด โทร 065-419-7904

มุ้งลวดคุณภาพสูง หมดปัญหากวนใจจากแมลงร้าย ให้บ้านคุณเย็นสบาย ปลอดภัยกว่าที่เคย! เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านมุ้งลวดที่พร้อมให้บริการคุณอย่างครบวงจรในเขตนนทบุรี ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งใหม่ ซ่อมแซมมุ้งลวดเก่า หรือแม้แต่การออกแบบและผลิตมุ้งลวดตามความต้องการพิเศษของคุณ เราพร้อมดูแลทุกขั้นตอนด้วยทีมงานมืออาชีพและวัสดุคุณภาพสูง เพื่อบ้านและอาคารที่น่าอยู่ ปลอดภัย และไร้แมลงรบกวน

มุ้งลวดเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่หลายบ้านนิยมติดตั้ง เพื่อประโยชน์ในการป้องกันแมลงร้ายต่างๆ เช่น ยุง แมลงวัน หรือแมลงรบกวนอื่นๆ เข้ามาในบ้าน ขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้สามารถเปิดหน้าต่างรับลม ระบายอากาศภายในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับมุ้งลวดให้มากขึ้น ทั้งชนิดที่นิยม วิธีซ่อมแซมเบื้องต้น การเลือกผู้ติดตั้ง และการออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับการติดตั้งมุ้งลวด


มุ้งลวด ที่นิยมในปัจจุบันมีกี่แบบ?

มุ้งลวดในท้องตลาดมีให้เลือกหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุการใช้งาน และลักษณะการติดตั้ง แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้:

1. มุ้งลวด แบบบานเลื่อน (Sliding Screen)

เป็นแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับประตูและหน้าต่างบานเลื่อน ใช้งานง่าย เปิด-ปิดสะดวก และไม่เปลืองพื้นที่ มักมาพร้อมกับรางเลื่อนอลูมิเนียม

  • ข้อดี: ใช้งานง่าย, ประหยัดพื้นที่, ดูแลรักษาง่าย
  • ข้อเสีย: ต้องมีพื้นที่สำหรับรางเลื่อน, หากรางสกปรกอาจทำให้เลื่อนติดขัด

2. มุ้งลวดแบบบานเปิด-ปิด (Hinged Screen)

เหมาะสำหรับประตูและหน้าต่างบานเปิดทั่วไป ลักษณะคล้ายบานประตูหรือหน้าต่าง มีบานพับสำหรับเปิด-ปิด

  • ข้อดี: แข็งแรงทนทาน, ป้องกันแมลงได้ดี, ทำความสะอาดง่าย
  • ข้อเสีย: ต้องมีพื้นที่สำหรับรัศมีในการเปิด, อาจขัดขวางการตกแต่งภายนอกบางส่วน

3. มุ้งลวดแบบจีบ (Pleated Screen หรือ Folding Screen)

เป็นมุ้งลวดที่สามารถพับเก็บเป็นจีบเล็กๆ ได้เมื่อไม่ใช้งาน ดูเรียบร้อยและประหยัดพื้นที่ มักใช้กับประตูหรือหน้าต่างบานใหญ่ หรือช่องเปิดที่ต้องการความสวยงาม

  • ข้อดี: สวยงาม, ประหยัดพื้นที่, สามารถทำขนาดใหญ่ได้, เปิด-ปิดได้ลื่นไหล
  • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าแบบอื่น, การทำความสะอาดตามรอยจีบอาจจะยุ่งยากกว่าเล็กน้อย

4. มุ้งลวดแบบม้วนเก็บ (Retractable Screen หรือ Roll-up Screen)

มุ้งลวดชนิดนี้จะถูกเก็บซ่อนอยู่ในกล่องด้านบนหรือด้านข้าง เมื่อต้องการใช้งานก็ดึงลงมา มักนิยมใช้กับประตูหรือหน้าต่างที่มีดีไซน์โมเดิร์น

  • ข้อดี: สวยงาม, กลมกลืนกับดีไซน์บ้าน, มุ้งลวดไม่สัมผัสสิ่งสกปรกเมื่อเก็บ
  • ข้อเสีย: ราคาสูง, กลไกอาจมีความซับซ้อนและมีโอกาสชำรุดได้, หากม้วนเก็บไม่ดีอาจเกิดรอยยับ

5. มุ้งลวดแบบแม่เหล็ก หรือ มุ้งลวดติดตีนตุ๊กแก

เป็นมุ้งลวดที่ติดตั้งง่ายด้วยแม่เหล็กหรือตีนตุ๊กแก เหมาะสำหรับหน้าต่างที่ไม่ต้องการเจาะ หรือสำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งชั่วคราว

  • ข้อดี: ติดตั้งง่าย, ราคาถูก, สามารถถอดทำความสะอาดได้ง่าย
  • ข้อเสีย: ความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าแบบอื่น, อาจไม่เหมาะกับช่องเปิดขนาดใหญ่, ขอบอาจจะหลุดง่ายหากมีการใช้งานบ่อย

วัสดุของผ้าตาข่ายมุ้งลวดที่นิยม

นอกจากประเภทของมุ้งลวดแล้ว วัสดุที่ใช้ทำผ้าตาข่ายมุ้งลวดก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน:

  • อลูมิเนียม (Aluminum): แข็งแรงทนทาน, ไม่เป็นสนิม, มีสีเงินหรือสีดำ, ระบายอากาศได้ดี
  • ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass): ยืดหยุ่นดี, ไม่เป็นสนิม, ไม่ยุบตัวง่าย, มีสีเทาหรือสีดำ, ระบายอากาศดี, ราคาถูกกว่าอลูมิเนียม
  • ไนลอน (Nylon): ราคาถูกที่สุด, มีความยืดหยุ่นสูง, แต่ความแข็งแรงทนทานน้อยกว่าวัสดุอื่น อาจฉีกขาดง่าย
  • สเตนเลส (Stainless Steel): แข็งแรงที่สุด, ทนทานต่อการกัดกร่อน, ไม่เป็นสนิม, มีราคาสูง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น กันสัตว์ขนาดเล็ก

วิธีซ่อมมุ้งลวดด้วยตัวเอง (สำหรับรอยขาดเล็กน้อย)

การซ่อมมุ้งลวดด้วยตัวเองนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ หากเป็นรอยขาดไม่ใหญ่มาก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม

  • ผ้าตาข่ายมุ้งลวดสำหรับซ่อม (วัสดุและสีเดียวกับมุ้งลวดเดิม)
  • กรรไกร
  • แหนบ หรือคีมเล็กๆ
  • กาวสำหรับมุ้งลวด หรือ กาวอีพ็อกซี่ใส (เลือกแบบที่ทนแดด ทนฝน)
  • แปรงสีฟันเก่า (สำหรับทากาว)
  • แผ่นรอง (เช่น กระดาษแข็ง)

ขั้นตอนการซ่อม

  1. ทำความสะอาด: ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดบริเวณรอยขาดบนมุ้งลวดให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก แล้วปล่อยให้แห้งสนิท
  2. ตัดผ้าสำรอง: ตัดผ้าตาข่ายสำรองให้มีขนาดใหญ่กว่ารอยขาดเล็กน้อย (ประมาณ 1-2 ซม. โดยรอบ)
  3. เตรียมแผ่นซ่อม: หากเป็นตาข่ายอลูมิเนียมหรือสเตนเลส ให้ค่อยๆ แกะเส้นลวดขอบของผ้าสำรองออก 1-2 แถว เพื่อให้เหลือขอบที่สามารถสอดเข้าไปในมุ้งลวดเดิมได้
  4. ประกบและยึด:
    • วิธีที่ 1 (สำหรับรอยขาดเล็ก): ใช้แหนบหรือคีมเล็กๆ ค่อยๆ สอดเส้นลวดที่แกะออกจากขอบของผ้าสำรอง เข้าไปในตาข่ายมุ้งลวดเดิม โดยให้ขอบของผ้าสำรองทับรอยขาดสนิท
    • วิธีที่ 2 (ใช้กาว): วางแผ่นซ่อมลงบนรอยขาดให้สนิท อาจจะวางแผ่นรองด้านหลังรอยขาดเพื่อช่วยให้กาวไม่ไปติดพื้นผิวอื่น จากนั้นใช้กาวสำหรับมุ้งลวด หรือกาวอีพ็อกซี่ใส ทาบางๆ บริเวณขอบผ้าสำรองที่ทับกับมุ้งลวดเดิม ใช้แปรงสีฟันเก่าช่วยเกลี่ยให้กาวกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
  5. ทิ้งไว้ให้แห้ง: ปล่อยทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิทตามคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือเคลื่อนย้ายมุ้งลวดในระหว่างนี้

ข้อควรระวัง: หากรอยขาดมีขนาดใหญ่ หรือมุ้งลวดเก่ามากและเสียหายหลายจุด การเปลี่ยนมุ้งลวดใหม่ทั้งบานอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อความแข็งแรงและประสิทธิภาพในการป้องกันแมลง


การเลือกผู้รับเหมาติดตั้งมุ้งลวด

การติดตั้งมุ้งลวดที่ได้มาตรฐานจะช่วยให้มุ้งลวดมีอายุการใช้งานยาวนาน และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกผู้รับเหมาจึงมีความสำคัญ:

  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: เลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งมุ้งลวดโดยตรง โดยเฉพาะในประเภทมุ้งลวดที่คุณต้องการ
  • ผลงานอ้างอิง: ขอดูผลงานที่ผ่านมา หรือสอบถามจากลูกค้าเก่า เพื่อประเมินคุณภาพของงาน
  • วัสดุที่ใช้: สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับวัสดุที่ผู้รับเหมาใช้ ทั้งโครงมุ้งลวด (อลูมิเนียม, ไวนิล) และผ้าตาข่าย (ไฟเบอร์กลาส, อลูมิเนียม, สเตนเลส) ว่าเป็นวัสดุคุณภาพดีหรือไม่
  • การรับประกัน: สอบถามการรับประกันการติดตั้งและวัสดุ เพื่อความสบายใจหากเกิดปัญหาหลังการติดตั้ง
  • ใบเสนอราคาที่ชัดเจน: เปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาหลายเจ้า และตรวจสอบรายละเอียดในใบเสนอราคาให้ชัดเจน ว่ารวมค่าวัสดุ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ครบถ้วนหรือไม่
  • ความน่าเชื่อถือ: เลือกผู้รับเหมาที่มีหน้าร้านชัดเจน หรือมีช่องทางการติดต่อที่เชื่อถือได้

ก่อนสร้างบ้านต้องออกแบบหน้าต่างยังไงให้เหมาะกับการใส่มุ้งลวดให้สวยงามเข้ากับตัวบ้าน?

การออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับการติดตั้งมุ้งลวดตั้งแต่แรก จะช่วยให้มุ้งลวดดูเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ไม่ดูขัดตา และใช้งานได้จริง:

  1. พิจารณาประเภทหน้าต่างและประตู:
    • บานเลื่อน: เหมาะกับมุ้งลวดบานเลื่อนอยู่แล้ว ควรเว้นช่องสำหรับรางมุ้งลวดให้เพียงพอ
    • บานเปิด: พิจารณาทิศทางการเปิด หากหน้าต่างเปิดออกด้านนอก มุ้งลวดต้องติดตั้งอยู่ด้านใน หากหน้าต่างเปิดเข้าด้านใน มุ้งลวดจะติดตั้งอยู่ด้านนอก ซึ่งอาจต้องคำนึงถึงความทนทานต่อสภาพอากาศของมุ้งลวด
    • บานกระทุ้ง/บานเกล็ด: การติดตั้งมุ้งลวดอาจทำได้ยากกว่าแบบอื่น หรืออาจต้องเป็นมุ้งลวดแบบเฉพาะ ควรปรึกษาสถาปนิกหรือผู้ติดตั้ง
    • บานใหญ่/ช่องเปิดกว้าง: เหมาะกับมุ้งลวดแบบจีบ หรือมุ้งลวดแบบม้วนเก็บ เพื่อความสวยงามและใช้งานง่าย
  2. เว้นพื้นที่ติดตั้งมุ้งลวด:
    • หน้าต่าง/ประตูบานเลื่อน: ควรออกแบบให้มีวงกบหรือกรอบหน้าต่างที่กว้างพอสำหรับติดตั้งรางมุ้งลวดด้านใน หรือด้านนอก โดยไม่ให้ชนกับบานประตู/หน้าต่าง
    • หน้าต่าง/ประตูบานเปิด: ควรมีระยะห่างระหว่างบานประตู/หน้าต่างกับผนังที่เพียงพอสำหรับติดตั้งโครงมุ้งลวด โดยไม่ให้บานประตู/หน้าต่างชนกับมุ้งลวดเมื่อเปิดออก
  3. สีและวัสดุของโครงมุ้งลวด:
    • เลือกสีของโครงมุ้งลวด (อลูมิเนียม, ไวนิล) ให้กลมกลืนกับสีของวงกบประตู-หน้าต่าง หรือสีของบ้านโดยรวม เช่น วงกบสีขาว โครงมุ้งลวดสีขาว หรือวงกบสีดำ โครงมุ้งลวดสีดำ
    • สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น อาจเลือกมุ้งลวดแบบม้วนเก็บ หรือแบบจีบ เพื่อความเรียบร้อยและไม่บดบังดีไซน์
  4. การติดตั้งแบบฝังหรือซ่อน (Built-in):
    • สำหรับบ้านที่สร้างใหม่ สามารถออกแบบให้มีการติดตั้งมุ้งลวดแบบซ่อนเข้าไปในผนังหรือวงกบได้อย่างแนบเนียน โดยเฉพาะมุ้งลวดแบบม้วนเก็บหรือแบบจีบ จะช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยและสวยงามมากยิ่งขึ้น
    • ปรึกษาสถาปนิกหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งมุ้งลวดตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและสวยงามที่สุด

การลงทุนในมุ้งลวดที่มีคุณภาพและการติดตั้งที่ถูกต้อง จะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากแมลง และยังคงความสวยงามน่าอยู่ไปอีกนาน

บทความโดย: Thaihomefix


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *