5/5 – (1 vote)

น้ำประปาที่ไหลเอื่อย หรือไม่มีน้ำไหลเลยในบางครั้ง เป็นปัญหาที่สร้างความหงุดหงิดใจให้กับเจ้าของบ้านหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่อยู่ชั้นบน หรือบ้านที่ใช้น้ำพร้อมกันหลายจุดในเวลาเดียว ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการติดตั้ง ระบบปั๊มน้ำภายในบ้าน หรือ เครื่องสูบน้ำภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงดันน้ำให้เพียงพอต่อการใช้งาน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น บทความนี้จาก ThaiHomeFix จะพาคุณไปรู้จักกับ ระบบปั๊มน้ำในบ้าน วิธีการเลือกซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติที่เหมาะสม และการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง


ทำไมต้องมีระบบปั๊มน้ำในบ้าน?

ปั๊มน้ำมีหน้าที่หลักในการเพิ่มแรงดันน้ำ โดยดูดน้ำจากแหล่งกักเก็บ (เช่น ถังเก็บน้ำ) แล้วส่งต่อไปยังจุดใช้งานต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำ ฝักบัว เครื่องซักผ้า หรือสุขภัณฑ์ต่างๆ ประโยชน์ของการมีปั๊มน้ำคือ:

  • เพิ่มแรงดันน้ำ: ทำให้น้ำไหลแรงขึ้นและสม่ำเสมอ แก้ปัญหาน้ำไหลเอื่อย
  • ใช้งานน้ำพร้อมกันหลายจุด: สามารถเปิดก๊อกน้ำหลายจุดพร้อมกันได้โดยที่แรงดันน้ำไม่ตกมากนัก
  • น้ำเพียงพอสำหรับบ้านหลายชั้น: ช่วยส่งน้ำขึ้นไปยังชั้นบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • สำรองน้ำในกรณีน้ำประปาไม่ไหล: หากมีถังเก็บน้ำร่วมด้วย จะมีน้ำใช้ได้เมื่อน้ำประปาหยุดไหลชั่วคราว

รู้จักกับ “ปั๊มน้ำอัตโนมัติ” ตัวช่วยยอดนิยม

ไม่ใช่การโฆษณา เป็นเพียงภาพประกอบบทความเท่านั้น

ปั๊มน้ำอัตโนมัติ เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยปั๊มจะทำงานอัตโนมัติเมื่อมีการเปิดใช้น้ำ และจะหยุดทำงานเมื่อปิดน้ำ ไม่ต้องคอยเปิด-ปิดสวิตช์เอง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ:

  1. ปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบแรงดันคงที่ (Constant Pressure Pump):
    • การทำงาน: มีถังแรงดันขนาดเล็กและแผงวงจรควบคุมแรงดันให้คงที่ตลอดเวลา
    • ข้อดี: น้ำไหลแรงสม่ำเสมอ ไม่มีอาการน้ำกระชากเมื่อเปิด-ปิดก๊อก, ประหยัดพลังงานกว่าในระยะยาว
    • ข้อเสีย: ราคาสูงกว่า, อาจมีเสียงดังบ้าง (ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อ)
    • เหมาะสำหรับ: บ้านพักอาศัยทั่วไป, บ้านที่ต้องการความนิ่งของแรงดันน้ำ
  2. ปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบมีถังแรงดัน (Pressure Tank Pump):
    • การทำงาน: มีถังแรงดันขนาดใหญ่กว่า ทำงานโดยการสะสมแรงดันน้ำไว้ในถัง เมื่อแรงดันลดลงถึงระดับที่ตั้งไว้ ปั๊มจึงจะทำงาน
    • ข้อดี: ราคาถูกกว่า, ทนทาน, บำรุงรักษาง่าย
    • ข้อเสีย: แรงดันน้ำอาจมีการสวิงเล็กน้อยเมื่อปั๊มเริ่มทำงาน, ปั๊มอาจทำงานถี่ขึ้นหากมีการใช้น้ำปริมาณน้อย
    • เหมาะสำหรับ: บ้านที่มีงบประมาณจำกัด, บ้านที่ต้องการความทนทาน, หรือใช้ร่วมกับถังเก็บน้ำขนาดใหญ่

วิธีเลือกซื้อปั๊มน้ำอัตโนมัติให้เหมาะสมกับบ้าน

การเลือกขนาดและชนิดของปั๊มน้ำที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้น้ำมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน:

  1. จำนวนจุดใช้น้ำและจำนวนผู้อยู่อาศัย:
    • 1-2 ห้องน้ำ / 1-3 คน: เลือกปั๊มขนาด 100-200 วัตต์
    • 2-3 ห้องน้ำ / 3-5 คน: เลือกปั๊มขนาด 200-300 วัตต์
    • 3-4 ห้องน้ำขึ้นไป / 5 คนขึ้นไป: เลือกปั๊มขนาด 300-400 วัตต์ขึ้นไป
    • ข้อควรระวัง: หากบ้านมีเครื่องทำน้ำอุ่นหลายเครื่อง หรือ Rain Shower ควรเลือกปั๊มที่มีกำลังวัตต์สูงขึ้นเล็กน้อย
  2. จำนวนชั้นของบ้าน:
    • บ้านชั้นเดียว: เลือกปั๊มขนาดทั่วไปได้ (ตามจำนวนห้องน้ำ)
    • บ้านสองชั้น: ควรเลือกปั๊มที่มีกำลังวัตต์สูงขึ้น เพื่อให้ส่งน้ำขึ้นชั้นบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • บ้านสามชั้นขึ้นไป: อาจต้องพิจารณาปั๊มที่กำลังวัตต์สูงเป็นพิเศษ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
  3. ขนาดของท่อน้ำ: ควรสัมพันธ์กับขนาดของปั๊มน้ำ เพื่อให้แรงดันน้ำเหมาะสมและไม่เกิดปัญหา
  4. ยี่ห้อและศูนย์บริการ: เลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีศูนย์บริการและอะไหล่รองรับในพื้นที่ เพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม
  5. เสียงรบกวน: หากปั๊มจะตั้งอยู่ในบริเวณที่ใกล้กับพื้นที่ใช้สอย ควรพิจารณาปั๊มรุ่นที่ออกแบบมาให้มีเสียงรบกวนน้อย
  6. งบประมาณ: กำหนดงบประมาณในการซื้อ โดยคำนึงถึงคุณสมบัติและประสิทธิภาพของปั๊ม

การติดตั้งที่ถูกต้อง: ปัจจัยสำคัญของประสิทธิภาพ

การติดตั้งปั๊มน้ำที่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ควรติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ โดยมีข้อควรคำนึงถึง:

  • มีถังเก็บน้ำ: ควรมีถังเก็บน้ำควบคู่กับปั๊มน้ำ เพื่อสำรองน้ำและช่วยให้ปั๊มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการทำงานของปั๊มโดยไม่จำเป็น
  • ติดตั้งในที่ร่ม: ป้องกันแสงแดดและฝน ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของปั๊ม
  • มีฐานรองรับ: วางปั๊มบนฐานที่มั่นคงและระบายน้ำได้ดี
  • ติดตั้งระบบบายพาส (Bypass System): หากปั๊มเสีย สามารถเปิดระบบบายพาสเพื่อให้มีน้ำใช้ได้ชั่วคราว
  • ต่อสายดิน: เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

วิธีแก้ไข ซ่อมแซมปั๊มน้ำ เบื้องต้นเมื่อปั๊มน้ำมีปัญหา

บางปัญหาเล็กน้อย คุณอาจสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะเรียก ช่างซ่อมปั๊มน้ำ :

  1. ปั๊มทำงานตลอดเวลา แต่น้ำไม่ไหล หรือไหลเบามาก:
    • ตรวจสอบ: มีน้ำในถังเก็บน้ำหรือไม่? มีน้ำประปาไหลเข้าถังหรือไม่?
    • สาเหตุ: น้ำหมดถัง, มีการรั่วซึมในระบบท่อน้ำ (ตรวจสอบก๊อกน้ำและสุขภัณฑ์ทุกจุด), ลมในท่อ
    • แก้ไขเบื้องต้น: เติมน้ำในถัง, ตรวจสอบรอยรั่ว, ไล่อากาศในระบบโดยการเปิดก๊อกน้ำให้สุดทุกจุด
  2. ปั๊มไม่ทำงานเลย:
    • ตรวจสอบ: ปลั๊กไฟเสียบแน่นหรือไม่? เบรกเกอร์ปั๊มน้ำตกลงมาหรือไม่?
    • สาเหตุ: ไม่มีกระแสไฟฟ้า, มอเตอร์ร้อนจัดจนตัดการทำงาน (Overload)
    • แก้ไขเบื้องต้น: ตรวจสอบระบบไฟ, รอให้มอเตอร์เย็นลงแล้วลองเปิดใหม่ (หากยังไม่ติด อาจต้องเรียกช่าง)
  3. ปั๊มทำงานตัด-ต่อบ่อยผิดปกติ (ปั๊มติ๊ก):
    • ตรวจสอบ: มีการรั่วซึมในระบบท่อน้ำหรือไม่? (แม้แต่จุดเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้ปั๊มทำงานได้)
    • สาเหตุ: แรงดันในถังแรงดันตก (สำหรับปั๊มแบบถังแรงดัน), สวิตช์แรงดันเสีย, ท่อน้ำรั่ว
    • แก้ไขเบื้องต้น: ตรวจสอบรอยรั่วทุกจุดอย่างละเอียด, ปรึกษาช่างเพื่อตรวจสอบแรงดันในถังแรงดันหรือสวิตช์แรงดัน
  4. มีเสียงดังผิดปกติจากปั๊ม:
    • ตรวจสอบ: มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปั๊มหรือไม่? ลูกปืนมอเตอร์เสื่อมสภาพหรือไม่?
    • สาเหตุ: สิ่งแปลกปลอมอุดตัน, ลูกปืนแตก, ติดตั้งไม่มั่นคง
    • แก้ไขเบื้องต้น: ปิดปั๊มและลองตรวจสอบเบื้องต้น (หากไม่มั่นใจ ไม่ควรแกะเอง), เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญ

ข้อควรจำ: หากคุณไม่มั่นใจในการตรวจสอบหรือซ่อมแซมด้วยตัวเอง หรือปัญหาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีเบื้องต้น การเรียกใช้บริการจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับปั๊มและระบบน้ำในบ้าน

การมีระบบปั๊มน้ำที่เหมาะสมและได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้บ้านของคุณมีน้ำใช้ได้อย่างเพียงพอและต่อเนื่อง ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อชีวิตที่สะดวกสบายอย่างแท้จริง


หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการติดตั้งหรือบำรุงรักษาระบบปั๊มน้ำ สามารถติดต่อ ThaiHomeFix ได้เสมอ เรายินดีให้คำปรึกษาครับ



ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *